วิธีจัดการกับนิสัยอยากไปเที่ยวแต่ขี้เกียจ

อยากไปเที่ยวแต่ขี้เกียจ ทำไงดี ผมเชื่อครับ ว่าอาจจะมีหลายๆคนเป็นแบบนี้ ซึ่งผมเมื่อก่อนก็ไม่ต่างกัน ผมมักจะมีเหตุผลต่างๆนาๆให้ตัวเองนอนอยู่บ้านแทนที่จะออกไปข้างนอกเสมอ ซึ่งมันก็ไม่ผิดนะครับ ในเมื่อความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน การอยู่ที่บ้านก็คือการพักผ่อนที่ดีแน่นอนอยู่แล้ว แต่ในหัวข้อนี้เราจะมาจัดการกับความรู้สึกที่อยากออกไปเที่ยว แต่พอคิดไปคิดมาแล้วก็อยู่บ้านดีกว่า จะทำยังไงกับไอ้ความรู้สึกพวกนี้ได้บ้าง ผมขอสรุปเป็นข้อๆจากประสบการณ์ของตัวเองนะครับ

• เริ่มต้นที่ตัวเอง

แน่นอนครับ ทุกๆอย่างมักจะเกิดจากตัวเราเองก่อนเสมอ ดังนั้นข้อแรก เราต้องสังเกตุตัวเองก่อน ว่าเราเป็นคนแบบไหน ซึ่งผมเองเห็นคนชอบทำอะไรใหม่ๆ ชอบไปสถานที่ใหม่ๆ ดังนั้นการออกไปนอกบ้าน เป็นคำตอบของผมครับ

• เปลี่ยนวิธีการเที่ยวให้เหมาะกับ lifestyle

การเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีมา ก็มักจะทำให้เราไม่อยากจะเจอสิ่งนั้นอีก เช่นแดดร้อน เหนื่อย นอนไม่สบาย หลายๆอย่างเหล่านี้มักเกิดจาก สถานที่ไม่ได้ตอบโจทย์กับ lifestyle ของเรา ยกตัวอย่าง ถ้าเราไม่ชอบแดดร้อน หรือผจญภัย เราก็อาจจะวางทริปตั้งแคมป์ตอนเย็น นั่งดื่มชิวๆกับเพื่อน หรืออาจจะไปนอนเล่นริมทะเลยามเย็น ผมเชื่อว่าถ้าเราเลือกสถานที่ให้ตรงกับ lifestyle สิ่งที่เราได้รับกลับมาต้องน่าประทับใจแน่นอนครับ

• วางแผนเที่ยว

ไม่เอาละ วางแผนมันยุ่งยาก น่าปวดหัว ผมบอกเลยครับ ว่าผมเคยคิดแบบนั้นมาก่อน แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้ยากขนาดนั้นครับ ยกตัวอย่างการออกไปเที่ยวต่างจังหวัด ผมก็จะวางแผนแบบหลวมๆไว้ครับ ดูเรื่องการเดินทาง ที่พัก และเป้าหมายไว้สัก1-2ที่ คราวนี้ก็จะพอเห็นภาพรวมที่เราจะไปลุยได้แล้ว เห็นมั้ยล่ะครับว่าง่ายนิดเดียว

• เลิกคิดเยอะ

ผมเองมีหลายครั้งครับที่รู้สึกว่า เห้ย อยากไปเที่ยวว่ะ แต่พอนั่งคิดอีกรอบก็จะพูดกับตัวเองว่า นอนอยู่บ้านสบายกว่าเยอะเลย ผมแก้ปัญหานี้ตัวการที่เอาความรู้สึกแว้บแรกนี่แหละครับ จองตั๋วรถ, ตั๋วเครื่องบิน หรือที่พักไปเลย เอาให้แน่ว่าต้องไป รับรองไม่มีข้ออ้างครับ 😀

คิดว่า 4 ข้อที่ยกมาน่าจะเพียงพอต่อการแก้ปัญหาของตัวเอง ที่ชอบมีข้ออ้างต่างๆที่จะไม่ออกจากบ้านได้นะครับ และถ้าคุณทำได้ ผมเองก็ขอให้คุณคนท่องเที่ยวอย่างมีความสุขนะครับ