เที่ยว

เที่ยวไต้หวัน ปี 2023 EP1

เที่ยวไต้หวัน ปี 2023 ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เดินทางยังไง โพสต์นี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ที่เพิ่งเดินทางไปไต้หวันมาแบบสดๆร้อนๆกันครับ

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เอกสารที่เราต้องเตรียมมีดังนี้ครับ

  • Passport ที่มีอายุมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป
  • ตั๋วเครื่องบินขาไป/ขากลับ
  • ที่อยู่หรือชื่อโรงแรมที่จะไปพัก (ใช้สำหรับกรอก arrival card ขาผ่านด่านคนเข้าเมือง)

ถ้าให้พูดจริงๆ หลักๆแล้วก็มีแค่ Passport นั่นแหละครับ เอาว่าอายุมากกว่า 6 เดือนก็โอเคละ ตั๋วเครื่องบินกับโรงแรมเราก็คงต้องจองอยู่แล้วล่ะจริงมะ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมอ่านได้ที่นี่ครับ เว็บไซต์ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป

เอาล่ะครับ เมื่อเอกสารเราเรียบร้อยก็ได้เวลาบินครับ พอถึงสนามบิน เราก็จะต้องกรอกใบ arrival card ครับซึ่งจะเป็นการกรอกข้อมูล ชื่อ, อาชีพ, flight บิน ไป/กลับ, ชื่อหรือที่อยู่โรงแรม เป็นต้นครับ ซึ่งจริงๆแล้วใบนี้แอร์จะแจกเราตั้งแต่บนเครื่องแล้วล่ะ เตรียมปากกาไว้หน่อยก็ดีครับ กรอกตั้งแต่บนเครื่องเลยก็จะได้ไม่ฉุกละหุก

arrival card หน้าตาก็จะประมาณนี้

พอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองจะเจอกับซุ้มขาย sim card ครับ ซื้อตั้งแต่ตรงนั้นเลยก็ได้ จะได้มี internet ใช้เปิด google map ดูข้อมูลเวลาขึ้นรถโดยสารสาธารณะด้วย

ภาพจากเว็บไซต์ gojiakhong.com

ผมลงที่สนามบิน Taoyuan airport นะครับ ที่ terminal 1 ทางลงไปสถานี mrt จะมี food course ของสนามบินครับ รองท้องที่นี่หน่อยก็ดี เพราะถ้าขึ้น mrt เข้าไปเป ก็ใช้เวลาเกือบๆชั่วโมงนึงครับ แต่ถ้าใครไม่หิวก็สามารถลงไปที่สถานี mrt เพื่อนั่งเข้าเมืองไทเปได้เลยครับ

ผมนั่ง mrt มาจนถึงสถานี ximen station ครับ บรรยากาศของที่นี่มีกลิ่นอายเหมือน shibuya ที่ผมเคยไปเมื่อนานมาแล้ว แต่ยังจำภาพและบรรยากาศได้ มีร้านอาหารและตึกต่างๆ ทั้งถนนคนเดิน และคนแต่งตัวคอสเพลก็คึกคัก

เที่ยวไต้หวัน ปี 2023 พักแปป

จากสถานี ximen ผมเดินไปเช็คอินที่พัก ที่โรงแรม papa whale ครับ ที่โรงแรมจะอยู่ห่างจากสถานีสัก 700 เมตรได้ สำหรับผมก็ระยะทางไม่ไกลมากนะ เดินดูเมืองแป้ปๆก็ถึงละ

ระหว่างพักผ่อนอยู่ที่โรงแรมผมก็ search หาร้านอาหารแถวนั้น ปรากฏว่าไปเจอร้านหม่าล่าเจ้าดังที่คนไทยชอบรีวิวกัน ซึ่งก็คือร้าน Yuanyang mala hotpot ครับ ก็เลยไปชิมสักหน่อย

รสชาติน้ำซุปหม่าล่าที่นี่ออกไปทางหอมสมุนไพรครับ ไม่ได้เข้มข้นเหมือนที่บ้านเรา แต่ข้อดีก็คือสามารถกินได้เรื่อยๆโดยไม่รู้สึกเค็มเกินไป วัตถุดิบค่อนข้างหลากหลายครับ แต่น้ำจิ้มต้องปรุงเอง ของหวาน ไอศกรีมและเครื่องดื่มก็หลายหลาก แต่ที่ผมชอบเลยก็คือมีเบียร์ให้กินด้วยนี่แหละ สดชื่นเลย 55

นอกเหนือจากอาหารและรสชาติ ก็คือราคาครับ ที่นี่จะมี package ต่างกัน 3 ตัว ผมไม่แน่ใจว่ามีอะไรต่างกันบ้าง แต่ผมเลือกแบบถูกสุดไปครับ 3 คน รวม service charge ก็อยู่ราวๆ หัวละ 1000 กว่าบาทได้ (เฉพาะบุฟเฟต์ 898 TWD)

เอาล่ะครับ สำหรับการเดินทางไปใต้หวันวันแรกก็จบลงที่ร้านหม่าล่านี่แหละครับ สำหรับวันที่สองผมเดินทางไปที่เมืองโบราณจิ่วเฟิ่น เอาไว้จะมาอัพเดทให้ได้อ่านกันนะครับ หรือถ้าใครอยากชมวีดีคลิปของทริปนี้ก็สามารถรับชมได้ทาง Youtube นะครับ แล้วเจอกันครับ