เที่ยว

เที่ยวไต้หวัน จิ่วเฟิ่น ปี 2023 EP2

เที่ยวไต้หวัน จิ่วเฟิ่น ปี 2023 เมื่อตอนที่แล้วผมได้เล่าถึงเรื่องการเดินทางวันแรก ที่ไปประเทศไต้หวัน การเตรียมเอกสารต่างๆ และเดินทางจากสนามบิน Taoyuan ไปที่เมืองไทเปไปแล้ว ใน EP2 นี้ ผมอยากจะเล่าในการเดินทางในวันที่2 ของทริปครับ

หลังจากที่ไปกินหม่าล่าหม้อไฟกัน เราก็กลับมาพักผ่อนกันที่โรงแรมครับ พอเข้าสู่เช้าวันที่ 2 ผมกับทีมงานก็ได้ check out จากโรงแรมประมาณ10โมง แล้วฝากกระเป๋าเอาไว้ครับ ที่โรงแรม Papa whale เค้าจะมีห้องฝากกระเป๋าอย่างดี พร้อมติดป้ายไว้ที่กระเป๋าเรา หลังจากนั้นเค้าก็จะฉีกส่วนที่เป็นหมายเลขให้เราเก็บไว้ เพื่อมาแสดงตอนมารับกระเป๋าอีกที

พอฝากกระเป๋าเสร็จ ก็ได้เวลาออกไปหาอะไรกินครับ พวกเราออกมากินอาหารกันแถวๆที่พัก ชื่อร้าน 365 Xiao Chi Dian เป็นร้านอาหารแบบ local ที่เมนูอาหารก็จะเป็นแนวบะหมี่กับข้าว รสชาติผมว่าออกไปทางกลมกล่อม ปรุงรสไม่จัดมากครับ ส่วนที่ผมแปลกใจนิดหน่อยก็คงจะเป็นเมนูเต้าหู้ที่มาพร้อมกับไข่เยี่ยวมา ราดซอสหอยนางรมนี่แหละ แปลกๆดี

ชื่อเมนูจะเป็นภาษาจีน ใช้ google translate แปลได้ครับ ไม่ก็ชี้ตรงรูปภาพให้เจ้าของร้านสั่งให้เลย

กินข้าวกันเสร็จก็มุ่งหน้าไปวัดหลงซานกันต่อ แต่ระหว่างทางที่จะเดินไปขึ้น MRT ก็เจอกับร้านเสี่ยวหลงเปา ก็เลยแวะชิมกันหน่อย

ที่ร้านจะมีทั้งแบบ take away และนั่งในร้าน แต่มีข้อแม้ว่าถ้านั่งในร้านจะต้องกินกันคนละ 100 TWD เป็นอย่างต่ำ กลุ่มผมไปกัน 3 คนแต่ดันสั่ง 100 TWD ก็เลยต้อง take away กันไป

หน้าตาของเสี่ยวหลงเปา ก็จะเป็นเหมือนกับซาลาเปาครับ แต่ด้านในจะเป็นน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม ตอนกินต้องระวังลวกปากด้วยนะ

พอกินเสร็จก็ได้เวลาไปที่วัดหลงซานจริงๆสักที การเดินทางไปวัดหลงซานจาก Ximen ก็ไม่ยากเลยครับ ขึ้น MRT ไปแค่สถานีเดียวก็ถึงละ

พอมาถึงก็เดินชมวัดกัน ผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรเกี่ยวกับความเป็นมาของวัดมาก เพราะมีข้อมูลในกูเกิ้ลเพียบ แต่เอาเป็นว่าเป้าหมายหลักๆของคนส่วนใหญ่ที่มาที่นี่คือ การขอพร และเครื่องรางเสริมดวงต่างๆที่เรียกว่าเสริมดวงกันได้รอบด้านเลย ทั้งด้านการเรียน ความรัก การงาน โชค สัตว์เลี้ยง และอื่นๆ ใครที่มาก็ต้องมีเครื่องรางติดไม้ติดมือกันไปอย่างแน่นอน

หลังจากเดินชมวัดกันเสร็จ เราก็กลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรม และไปขึ้นรถบัสสาย 965 เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมือง จิ่วเฟิ่นครับ

นั่งรถกันชั่วโมงนึงเราก็มาถึงจิ่วเฟิ่นครับ ที่เมืองนี้จะมีลักษณะที่เป็นชั้นๆขึ้นไป โดยเราจะต้องเดินขึ้นบันไดไปหลายร้อยขั้นเลย ถึงจะขึ้นไปบนถนนเส้นหลักที่ผมจะเรียกว่าถนนคนเดิน หรือที่รู้จักกันในชื่อ Jiufen old street ครับ

ที่ทางเดินนี้จะมีร้านอาหารมากมาย ที่พอตกกลางคืนก็จะมีโคมไฟสีแดงประดับอยู่ข้างทาง เป็นไฮไลท์ของที่นี่ ที่เค้าว่ากันว่าการ์ตูนเรื่อง Spirit away ก็ได้แรงบันดาลใจจากที่นี่ไปด้วย

ที่นี่ของกินเยอะจริงครับ นักท่องเที่ยวก็เยอะเช่นเดียวกัน ไม่ถึงกับเดินเบียดแต่ก็หนาแน่นพอสมควร

พอมาถึงที่นี่ก็ต้องขอพักผ่อนก่อนครับ เพราะการเดินขึ้นบันไดหลายร้อยขั้นก็เล่นเอาหืดขึ้นคอเลย ผมจองที่พักที่ชื่อ Mountain traveller inn ผ่านทาง booking.com ครับ ห้องพักผมว่าโอเคเลย แต่อาจจะไม่โอเคตรงที่มันต้องเดินขึ้นเนินไปอีก (จากที่เดินขึ้นบันไดมาเยอะมากๆ ก็ต้องขึ้นอีก) แต่โดยรวมก็ใช้ได้ครับ ข้อควรระวังคือใครขาไม่ดี เข่าไม่ดีนี่ลำบากแน่นอนครับ

พอตกกลางคืนผมก็ไม่พลาดที่จะออกมาเก็บภาพต่างๆ โดยเฉพาะจุดที่พลาดไม่ได้เลยก็คือบริเวณร้าน Amei teahouse ที่ว่ากันว่าเป็นจุดถ่ายรูปมหาชนเลย

เอาล่ะครับ สำหรับการเดินทางในวันที่2 ก็จบไปแล้วครับ โอกาสหน้าผมจะมาเล่าถึง EP3 ที่กลับจากจิ่วเฟิ่น ไปที่ไทเปอีกครั้ง และเราจะไปเดินตลาดกลางคืนอย่าง Ningxia market ที่มี street food มากมาย แล้วเจอกันครับ